5 จุด เช็คอินถ่ายรูปสวย เรียกยอด Like 

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย.แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวถ่ายรูปสวยปังให้สายทำคอนเทนต์ไปเที่ยวตามรัวๆ จัดให้ทั้งวิวทะเล น้ำตก ภูเขา ทุ่งหญ้า และอ่างเก็บน้ำ ซึ่งนอกจากจะได้ภาพสวยๆ ยังมีอากาศดีๆ และกิจกรรมชิลๆ ให้เปิดประสบการณ์ใหม่กันด้วย ได้เวลาออกไปเก็บภาพ Collection ใหม่กันแล้วล่ะ

1. หาดเก้าเส้ง จ. สงขลา

หาดเก้าเส้ง อยู่ทางตอนใต้ของชายทะเลเมืองสงขลา เป็นหาดทรายที่ต่อเนื่องมาจากหาดชลาทัศน์ถึงโค้งอ่าวเล็กๆที่มีหมู่บ้านชาวประมงไปสุดปลายหาดที่โขดหินสูงคล้ายภูเขา สีของเม็ดทรายที่เก้าเส้งไม่ขาวมากนัก แต่ภาพรวมของหาดนี้สร้างความโดดเด่นไม่น้อยกว่าที่อื่น ทั้งจากธรรมชาติและวิถีชีวิตชาวประมงของที่นี่ ที่นอกจากยืนหยัดในอาชีพชาวประมงท้องถิ่นท่ามกลางชุมชนเมือง และยังเป็นแหล่งสร้างเรือกอและเรือประมงพื้นบ้านที่มีลวดลายสีสันสวยงาม

หาดเก้าเส้ง อยู่ทางทิศใต้ของหาดสมิหลาประมาณ 3 กิโลเมตร แม้หาดจะสวยสู้ที่อื่นไม่ได้แต่มีเสน่ห์ในพื้นที่ เช่นวิถีชีวิตของคนที่นี่ที่ยังคงรักษาความเป็นชาวประมงเอาไว้ ชายหาดมีโขดหินระเกะระกะอยู่ริมทะเล และมีก้อนหนึ่งตั้งเด่นอยู่เหนือโขดหินซึ่งชาวบ้านเรียกหินก้อนนี้ว่า”หัวนายแรง”ภูมิทัศน์ของเขาเก้าเส้ง เป็นเขาหินมีต้นไม้เล็กน้อยก็แตกต่างจากภูเขาริมทะเลอื่นๆ ของสงขลา มีพื้นที่ติดกับทะเลอ่าวไทย โดยมีก้อนหินใหญ่ที่ตั้งเด่นอยู่ที่ปลายสุดเป็นลักษณะสำคัญ ทิวทัศน์จากบริเวณหัวนายแรงนี้มองไปเห็นเกาะหนูเกาะแมวอยู่ลิบๆ

มีตำนานเล่าถึงเขาเก้าเส้ง หรือที่เรียกกันในภาษาพื้นเมืองว่า “หัวนายแรง” ว่า “ครั้งนั้นทางเมืองนครศรีธรรมราชกำหนดบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในเจดีย์ และจัดงานเฉลิมฉลองใหญ่โต บรรดา 12 หัวเมืองปักษ์ใต้ต่างก็นำเงินทองไปบรรจุในพระบรมธาตุ เมืองที่นายแรงเป็นเจ้าเมืองก็เป็นเมืองขึ้นนครศรีธรรมราชด้วย ประกอบกับนายแรงมีความศรัทธาในพุทธศาสนา จึงขนเงินทองเป็นจำนวนมากถึงเก้าแสนบรรทุกเรือสำเภา พร้อมด้วยไพร่พลออกเดินทางไปเมืองนครศรีธรรมราช ขณะกำลังเดินทางเรือสำเภาถูกคลื่นลมชำรุด จึงเข้าจอดเรือที่ชายฝั่งหาดทรายแห่งหนึ่ง เพื่อซ่อมแซมเรือ พอได้ทราบข่าวว่าทางเมืองนครศรีธรรมราชได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุเสร็จแล้ว นายแรงเสียใจมาก จึงให้ไพร่พลขนเงินทองบรรจุไว้บนยอดเขาลูกหนึ่ง สั่งให้ลูกเรือตัดหัวของตนไปวางไว้ที่ยอดเขา นายแรงกลั้นใจตาย ลูกเรือต้องจำใจตัดหัวเจ้านายไปวางไว้บนยอดเขาตามคำสั่ง เขาลูกนี้ภายหลังเรียกว่า “เขาเก้าแสน” เรียกเพี้ยนไปเป็น “เก้าเส้ง”ก้อนหินที่ปิดทับบนยอดเขาเรียกว่า“หัวนายแรง” ชาวบ้านเชื่อว่าดวงวิญญานของนายแรงยังเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์มาจนทุกวันนี้

2. เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ. ลพบุรี 

ตั้งอยู่ที่บ้านแก่งเสือเต้น ตำบลหนองบัว เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เป็นชื่อที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานให้กับเขื่อนแห่งนี้

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นเขื่อนแกนดินเหนียวที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ด้วยความยาวทั้งสิ้น 4,860 เมตร สร้างขึ้นภายใต้โครงการพัฒนาลุ่มแม่น้ำป่าสัก ซึ่งเป็นโครงการตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยมีวัตถุประสงค์คือ เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในฤดูน้ำหลากและปัญหาขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูร้อน เขื่อนแห่งนี้นอกจากจะเป็นสถานที่กักเก็บน้ำแล้วยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดลพบุรีอีกด้วย โดยกิจกรรมที่ถือว่าเป็นไฮไลต์ของการมาเที่ยวที่นี่คือ การนั่งรถรางไปตามแนวสันเขื่อนด้วยระยะทางไป-กลับกว่า 10 กิโลเมตร ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับลมเย็นสบายพร้อมชมทัศนียภาพอันงดงามบริเวณอ่างเก็บน้ำซึ่งกิจกรรมที่ว่านี้จะมีเฉพาะวันหยุดเท่านั้น หากมาเยือนในวันธรรมดา คุณสามารถขึ้นไปยังชั้นบนสุดของหอคอยเฉลิมพระเกียรติเพื่อชมทัศนียภาพอันงดงามของเมืองลพบุรี ได้รอบทิศแบบ 360 องศา หรือเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์ลุ่มน้ำป่าสักซึ่งจัดแสดงความรู้ด้านธรรมชาติและวัฒนธรรมของท้องถิ่น ที่สำคัญไม่ควรพลาดไปกราบไหว้พระพุทธรัตนมณีมหาบพิตรชลสิทธิ์มงคลชัย (หลวงปู่ใหญ่ป่าสัก) พระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่สีขาวที่ประดิษฐานอยู่บริเวณท้ายเขื่อน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0 3649 4031-4 ข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://www.lopburi.org/pasakjolasiddam

3. ผาหอบ จ. ลำปาง

แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติสุดปัง จะพายเรือชิคๆ ล่องแพชิวๆ แอ่วผาชมถ้ำ หรืออยากจะกระโดดหน้าผาแบบแอดเวนเจอร์กันไปเลยก็ได้ ถือว่าเป็นที่เที่ยวที่เหมาะสำหรับหน้าร้อนมากๆ

ช่วง Green Season ที่เต็มไปด้วยความเขียวขจีของต้นไม้ และพืชนานาพรรณ ใครที่กำลังวางแผนเที่ยวช่วงวันหยุดยาว แนะนำ ‘ผาหอบ’ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติสุดปัง จะพายเรือชิคๆ ล่องแพชิวๆ แอ่วผาชมถ้ำ หรืออยากจะกระโดดหน้าผาแบบแอดเวนเจอร์กันไปเลยก็ได้ มาที่นี่ที่เดียวบอกเลยว่าครบ

สถานที่ดังกล่าวอยู่ห่างจากตัวอำเภอแม่เมาะประมาณ 3 กม. สามารถขับรถไปจอด แล้วต้องเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 200 เมตร ซึ่ง “ผาหอบ” เป็นคุ้งน้ำขนาดใหญ่ มีหน้าผาขนาบทั้ง 2 ด้าน น้ำใส แต่ลึก ในถ้ำมีหินงอกและหินย้อยที่สวยงามท่ามกลางบรรยากาศที่เย็นสบาย

สถานที่ดังกล่าวเกิดจากรอยเลื่อนของแผ่นอายุราวสามแสนกว่าปีตามธรรมชาติ ซึ่งอยู่ในเขตป่าชุมชนบ้านแม่เกี๋ยง ลักษณะเป็นคุ้งน้ำขนาดใหญ่ มีหน้าผาโอบทั้งสองด้าน มีแม่น้ำจางไหลผ่านกลาง มีทัศนียภาพที่สวยงามและเย็นสบาย จุดที่นักท่องเที่ยวชอบไปดูคือ ถ้ำรูปหัวใจซึ่งหากมองจากด้านนอกถ้ำก็จะเป็นรูปหัวใจซ้อนกัน 2 ดวง

ค่าเช่าเรือ/แพ คนละ 50 บาท (ต่อหนึ่งชั่วโมง) เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00 – 17.00น.

ติดต่อสอบถาม คุณเจนนุพงษ์ โทร.081-7466987

4. น้ำตกธารมะยม เกาะช้าง จ.ตราด 

เป็นน้ำตกขนาดกลาง มี 4 ชั้น ลักษณะเป็นธารน้ำไหลผ่านลงมาเป็นชั้นๆตามร่องหินแกรนิตสีดำ มีหน้าผาสูงชันจนเกือบตั้งฉาก บริเวณโดยรอบเป็นป่าดงดิบ อากาศร่มเย็นสบายเหมาะแก่การตั้งแคมป์ และเล่นน้ำตก เส้นทางเดินไปน้ำตกเดินง่ายไม่ลำบาก บริเวณชั้นที่ 1 น้ำตกไม่สูงนัก มีแอ่งน้ำด้านหน้าที่สำคัญคือ มีแผ่นจารึกพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ตั้งอยู่ทางด้านซ้าย น้ำตกชั้นที่ 2 อยู่เลยขึ้นไปเล็กน้อยสำหรับน้ำตกชั้นที่ 3 และ 4 ระยะทางค่อนข้างไกลและทางเดินลำบาก ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง และทางอุทยานแห่งชาติได้จัดทำเส้นทางเดินป่าระยะไกลน้ำตกธารมะยม-น้ำตกคลองภู ระยะทางมากกว่า 8 กิโลเมตร เป็นเส้นทางที่ค่อนข้างรก ตัดข้ามเทือกเขาสลักเพชร ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก มีเพียงเจ้าหน้าที่นำทาง หากสนใจติดต่อสอบถามได้ที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ กช.1 (ธารมะยม) นอกจากนี้ ในบริเวณไกล้เคียงยังมีหมู่บ้านชาวประมงที่มีสภาพป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์และเป็นป่าชายเลนที่ใหญ่ที่สุดของเกาะช้าง คือ หมู่บ้านสลักคอก ซึ่งเป็นชุมชนที่มีวิถีชีวิตที่น่าสนใจ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง

โทรศัพท์ : 0 3951 0928 , 082 625 0300

โทรสาร : 0 3951 0928

อีเมล : kochang.dnp@gmail.com

5. เขาหน่อ – เขาแก้ว จ. นครสวรรค์

อยู่ริมทางหลวงสายพหลโยธิน ช่วงนครสวรรค์-กำแพงเพชร ในท้องที่ตำบลบ้านแดน อำเภอบรรพตพิสัย ระยะทางจากตัวจังหวัดประมาณ 45 กิโลเมตร

เป็นภูเขาหินปูนรูปทรงแปลกตาที่มองเห็นมาแต่ไกลทุกครั้งเวลาสัญจรผ่านไปมาบนถนนพหลโยธินช่วงรอยต่อระหว่างจังหวัดนครสวรรค์กับกำแพงเพชร ที่เรียกกันว่าเขาหน่อ-เขาแก้วแห่งนี้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง ของนครสวรรค์ เริ่มจากเขาหน่อ ที่เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์เมื่อพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เคยเสด็จประพาส โดยเสด็จภาคเหนือทางชลมารคผ่านแม่น้ำปิง เมื่อปี พ.ศ. 2449 และต่อมาในปี พ.ศ. 2452 ได้พระราชทานสิ่งของให้แก่หลวงพ่อแหยม วัดบ้านแดน

เขาหน่อแห่งนี้แบ่งออกได้เป็น 2 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ – เขานางพันธุรัตซึ่งเป็นเขาลูกเล็กที่คุณสามารถเดินขึ้นไปชมวิวบนยอดเขาผ่านบันได 60 ขั้น ซึ่งบริเวณลานชมวิวจากเขานางพันธุรัตแห่งนี้ จะพบถ้ำขนาดเล็กแห่งหนึ่ง ด้านหน้าประดิษฐานพระพุทธรูปนอนองค์ใหญ่ และมีพระพุทธรูปองค์เล็กอีก 4 องค์วางอยู่เคียงกัน ชาวบ้านเชื่อกันว่าถ้ำแห่งนี้คือถ้ำพญานาค หากต้องการเดินเข้าไปชมนักท่องเที่ยวต้องนำไฟฉายติดตัวไปด้วย ภายในถ้ำค่อนช้างชื้นและเป็นทางตัน ไม่สามารถเดินทะลุออกไปได้ ต้องเดินกลับมาทางเดิม

เขาพระพุทธบาทหรือเขาลูกใหญ่ ที่บริเวณหน้าเขาจะมีโรงเรียนร้างเป็นจุดสังเกต ที่นี่อยู่ห่างจากเขานางพันธุรัตราว ๆ 300 เมตร ด้านบนเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทและเจดีย์เก่าแก่อายุประมาณ 400 ปีซึ่งคาดว่าสร้างขึ้นสมัยอยุธยาตอนปลาย และมีระฆังที่นำไปแขวนใหม่ประมาณ 20 ใบ การเดินขึ้นสู่ยอดเขาเพื่อไปนมัสการรอยพระพุทธบาทจำลองต้องเดินไปตามบันได 700 ขั้น

และต้องปีนบันไดลิงอีก 5 ช่วง 

และด้วยเส้นทางอันท้าทายเช่นนี้เอง ที่นี่เคยถูกใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันชิงตำแหน่งผู้พิชิตยอดเขาหน่อเป็นคนแรก สำหรับเขาแก้วที่อยู่ในบริเวณเดียวกันกับเขาหน่อที่ปัจจุบันมีถนนคั่นกลางอย่างชัดเจนนั้น มีถ้ำหลายถ้ำอันเป็นที่อยู่ของฝูงค้างคาว โดยเฉพาะในเวลาพลบค่ำ ฝูงค้างคาวจะพากันบินออกหากิน จากปากถ้ำนับล้านตัว สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจแก่ผู้พบเห็นยิ่งนัก 

ปัจจุบันอบต.บ้านแดน ได้พัฒนาให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยสร้างศาลาสำหรับชมค้างคาวไว้บริการนักท่องเที่ยว ยิ่งในช่วงวันเสาร์และอาทิตย์ด้วยแล้ว ที่นี่จะคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวมาเฝ้ารอชมโชว์สุดพิเศษจากฝูงค้างคาว พลางนั่งรับประทานอาหารค่ำจากร้านอาหารชาวบ้านที่มีบริการในละแวกนั้น เปิดทุกวัน เวลา 08.00-16.00 น. 

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยวจังหวัดนครสวรรค์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครสวรรค์ 

โทร. +66 5622 1602, +66 5622 1034, +66 5622 1656 ต่อ 114 โทรสาร+66 5623 1841, +66 5622 162 ต่อ 111

ที่มา : thai.tourismthailand.org

https://www.songkhla.go.th/travel/detail/130

https://portal.dnp.go.th/Content/nationalpark?contentId=1734