ความสำคัญของสารไอโอดีน 

คนส่วนใหญ่มักพบกับสุขภาพตามกระแส ทุกครั้งที่เรานำเกลือมาแทบจะไม่ฉุกคิดถึงปริมาณไอโอดีนว่าได้รับหรือไม่ แต่มักจะคิดเรื่องปริมาณความเค็มของเกลือมากกว่าที่จะมีคำถามเกี่ยวกับความคิดที่ถูกต้องของไอโอดีน ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากร่างกายและสมองซึ่งเป็นสาเหตุต่อสุขภาพของผู้อื่นและควรเตือนสติตลอดเวลา

ไอโอดีน  เป็นสารที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ แต่เป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างไทรอยด์ฮอร์โมน 

การขาดสารโอไอดีน ส่งผลให้ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติก่อให้เกิดโรคคอพอก และโรคเอ๋อ ไอโอดีนพบมากในอาหารทะเล เช่น ปลา กุ้ง หอย ปู และสาหร่ายทะเล และยังคงพบได้ในผลิตภัณฑ์นมไข่ ผัก และเมล็ดงา เป็นต้น 

ปริมาณไอโอดีนที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันคือ 90 – 120 ไมโครกรัม

ผู้ใหญ่ทั่วไปประมาณ 100-150 ไมโครกรัม และหญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตรจะมีความต้องการที่มากขึ้นประมาณ 250 ไมโครกรัมต่อวัน 

ในกรณีที่หากขาดสารไอโอดีนในทารกจะมีความพิการทางสมอง และอาจทำให้ผลข้างเคียงทำให้แท้งที่นี่ตั้งแต่อยู่ในครรภ์หรือพิการหรือปัญญาอ่อนได้ 

ทารกในครรภ์มารดามีการเจริญเติบโตของระบบประสาทตั้งแต่ในครรภ์ จึงควรได้รับไอโอดีนซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาเซลล์ประสาทและสมองในปริมาณที่เพียงพอ หากหญิงตั้งครรภ์ได้รับไอโอดีนไม่เพียงพอ จะส่งผลให้ทารกในครรภ์ขาดสารไอโอดีนไปด้วย

ส่วนผู้ใหญ่ถ้าขาดสารไอโอดีนอย่างต่อเนื่องอาจทำให้คอพอก เชื่องช้า ไข้เลือดออกและท้องผูก

นอกจากนี้ในทางการแพทย์ยังพบว่าสารไอโอดีนมีประโยชน์หลายอย่าง อาทิ ส่วนประกอบในยาแก้ไอ ส่วนประกอบในยาฆ่าเชื้อ การฉีดสีทำ CT Scan เป็นต้น

การป้องกันการขาดสารโอไอดีน

  1. ผู้ที่ชื่นชอบและบริโภคเกลือหรือผลิตภัณฑ์ที่จำเป็นสำหรับเพิ่มไอโอดีนที่มีคุณภาพตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขแทนการใช้เกลือทะเล เช่น น้ำปลา เกลือปรุงอาหาร และผลิตภัณฑ์ซอสเซสที่จำเป็นสำหรับความต้องการของแรงงาน “ใช้เกลือบริโภคเสริมไอโอดีน” หรือ “ ไอผสมโอดีน” หรือ “เกลือคูปองเสริมไอโอดีน…%”
  2. ยาเม็ดเสริมไอโอดีนในสตรีมีครรภ์

ไอโอดีนมีผลกับสมองของทารกตั้งแต่ในครรภ์จนถึงอายุ 2 – 3 ปี หญิงตั้งครรภ์จำเป็นต้องรับเม็ดเสริม ไอโอดีนวันละ 1 เม็ด ช่วงแรกเริ่มก่อนตั้งครรภ์หลังคลอดและขณะให้นมบุตร 6 เดือน 

มาตรการของกระทรวงสาธารณสุข

 ที่ผ่านมาพบว่าเด็กไทยมีระดับไอคิวลดน้อยลงจนต่ำกว่ามาตรฐาน ทำให้กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญโดยการใส่ไอโอดีนลงในอาหารเพิ่มขึ้น ทำให้สถานการณ์ภาวะขาดสารไอโอดีนดีขึ้นตามมา โดยในปี 2553 กระทรวงสาธารณสุข ออกกฎว่าเกลือบริโภคทุกชนิดจะต้องมีไอโอดีนไม่ต่ำว่า 30 มิลลิกรัมต่อเกลือ 1 กิโลกรัม ส่วนในผลิตภัณฑ์ปรุงรสอื่น อาทิ น้ำปลา น้ำปรุงรส ซอสถั่วเหลือง จะต้องมีไอโอดีนไม่น้อยกว่า 2 มิลลิกรัมและไม่เกิน 3 มิลลิกรัมต่อผลิตภัณฑ์ 1 ลิตร เพื่อลดในปัญหาการขาดสารไอโอดีน และควบคุมไม่ให้คนไทยบริโภคเกลือมากเกินไป เพราะอาจส่งผลให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง

ผลของการขาดไอโอดีนในภาพรวม

– ขาดไอโอดีนในปริมาณน้อย ส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรง

– ขาดไอโอดีนปริมาณมาก ส่งผลต่อระบบประสาท

– ขาดไอโอดีนปริมาณมาก ๆ ส่งผลให้ต่อมไทยรอยด์ไม่ทำงานแต่กำเนิด

ดังนั้นการเลือกบริโภคอาหารที่มีไอโอดีนเป็นบางครั้ง การเลือกบริโภคเกลือสำหรับผู้บริโภคและผลิตภัณฑ์ที่มีความจำเป็นที่เสริมไอโอดีนจะช่วยให้คุณช่วยให้ร่างกายได้รับไอโอดีนอย่างเพียงพอ สำหรับยาเม็ดเสริมไอโอดีนควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น

ที่มา :https://oryor.com/media/infoGraphic/media_printing/2127?ldtag_cl=HVyF-di5T_-BFHaB56UJswAA_oa