คริสต์มาสนี้เราจะควบคุมการกินที่ผิดปกติได้อย่างไร

สำหรับหลายๆ คน เทศกาลคือช่วงเวลาที่จะได้พบปะสังสรรค์กับเพื่อนและครอบครัวพร้อมกันบนโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหาร

และยังเป็นเวลาคลายเครียดและพักผ่อยเอนหลังยาวๆ โดยเฉพาะในช่วงก่อนคริสต์มาส คนจะพูดคุยกันเยอะว่าจะกินอะไรกันดี

ทั้งหมดนั้นมักจะตามมาด้วยการสนทนาหลังมื้ออาหารทั่วไปและปณิธานปีใหม่เกี่ยวกับการเตรียมพร้อม “ร่างกายในฤดูร้อน” และสัญญาว่าจะมุ่งมั่นกลับไปฟิตหลังจากเทศกาล

แต่สำหรับผู้ที่กินมากผิดปกติ ช่วงเทศกาลอาจเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายและหนักใจเป็นพิเศษ

“คนที่เป็นโรคพฤติกรรมการกินอาหารที่ผิดปกติ จะมีความกังวลในหัว” ลีอาห์ วอร์ด พ่อแม่ของวัยรุ่น* ที่กำลังฟื้นตัวจากโรคพฤติกรรมการกินอาหารที่ผิดปกติ” บอกกับเอบีซี นิวส์ เบรกฟาสต์

“ความกังวลที่เกิดทำให้จดจ่อไปที่เรื่องอาหารและความเกี่ยวข้อง ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ”

“แต่การพูดคุย ความวุ่นวาย และองค์ประกอบของอาหาร – และการถกเถียงกันเกี่ยวกับความจำเป็นในการลดน้ำหนักหรือไปออกกำลังกายเพื่อหลีกหนีจากสิ่งที่พวกเขาทานเป็นมื้อกลางวัน – ความเห็นประเภทนี้เป็นเรื่องยากจริงๆ”

แนวทางในช่วงเทศกาล

อาจเป็นเรื่องยากที่จะวางแผนให้ผู้มีความผิดปกติในการกินมีส่วนร่วมในช่วงเวลาที่มีแต่การเฉลิมฉลองด้วยอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไม่ใช่เรื่องที่ต้องนึกถึงก่อน

แต่ Jane Rowan ผู้อำนวยการบริหารของ Eating Disorders Families Australia (EDFA) บอกกับ ABC News Breakfast ว่า การทานอาหารมาจากสามัญสำนึกและมารยาท

“คุณอาจจะไปรวมตัวกันในช่วงเทศกาลวันหยุดนี้ ซึ่งอาจจะมีใครบางคนกำลังป่วยเป็นโรคการกินที่ผิดปกติอยู่” เธอกล่าว

“การฟังผู้คนพูดคุยเกี่ยวกับแผนการรับประทานอาหารของพวกเขาหลังวันคริสต์มาส บางคนอาจแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของพวกเขา ผู้คนพูดถึงวิธีที่พวกเขาอาจต้องฟิตร่างกายในช่วงปีใหม่ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นตัวกระตุ้น”

จากข้อมูลของ EDFA ชาวออสเตรเลียประมาณ 1 ล้านคนมีความผิดปกติในการรับประทานอาหารในแต่ละปี นั่นคือประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์ของประชากร

และประมาณร้อยละ 9 ของชาวออสเตรเลียจะประสบกับปัญหาการกินผิดปกติในช่วงหนึ่งของชีวิต

นอกจากนี้ โรคอะนอเร็กเซีย เนอร์โวซายังมีอัตราการเสียชีวิตสูงสุดในบรรดาภาวะสุขภาพจิตใดๆ โดยผู้ป่วยร้อยละ 20 เสียชีวิตจากผลที่ตามมาของโรค

การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ทำให้ผู้ป่วยมีอาการผิดปกติทางการกินมากขึ้น ทำให้เข้าถึงการรักษาและความช่วยเหลือได้ยากขึ้น

แม้ว่าเราจะถอยห่างจากข้อจำกัดของ COVID-19 ไปมากแล้ว แต่ความท้าทายสำหรับผู้ที่มีความผิดปกติในการรับประทานอาหารยังคงอยู่

ดังนั้น การสนทนาเกี่ยวกับอาหารและรูปลักษณ์ภายนอก — และการงดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสัดส่วนและตัวเลือกของอาหารด้วย — เป็นการเริ่มต้นที่ดีที่จะช่วยให้ทุกคนที่โต๊ะรู้สึกมีส่วนร่วมและสบายใจ

“การสนทนาแบบนั้น ส่งผลกดดันต่อครอบครัวเช่นกัน เพราะพวกเขากำลังเฝ้าดูการสนทนาที่เกิดขึ้นและพยายามปกป้องคนที่รักจากโรคการกินผิดปกติ” นางโรวันกล่าว

เคล็ดลับของ EDFA ในการสนับสนุนผู้ที่มีความผิดปกติในการรับประทานอาหารในช่วงเทศกาล

-อย่าพูดว่าต้อง “ไดเอท” หลังจากกิน “มากเกินไป” ในวันคริสต์มาส

-อย่าแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของใคร

-ตระหนักว่าพวกเขาอาจต้องถอยออกมาและมีเวลาเงียบๆ

-การหยุดชะงักของกิจวัตรที่เคร่งครัดในช่วงวันหยุดอาจเป็นผลเสียได้

-ค้นหาสิ่งที่พวกเขาสนใจและพูดคุยกับพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ค้นหาวิธีเชื่อมต่อแทนที่จะพูดถึงอาหารและรูปลักษณ์ภายนอก

-เพื่อสนับสนุนครอบครัวและผู้ดูแล ทำให้พวกเขารู้สึกเห็นและได้รับการสนับสนุนโดยให้ความช่วยเหลือในทางปฏิบัติ เช่น ตัดหญ้า/ช่วยดูแลสัตว์เลี้ยง

การอยู่กับโรคการกินอาหารที่ผิดปกติ

นางวอร์ดกล่าวว่าลูกของเธอขณะนี้ “กำลังฟื้นตัว” หลังจากป่วยด้วยโรคการกินผิดปกติในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

“อาการลูกของเราดีกว่าเมื่อหลายปีก่อนมาก” เธอกล่าว

“แต่สภาพแวดล้อมในงานรื่นเริงหรือการพบปะในสังคมต่างๆ นั้นยังเป็นเรื่องยาก เพราะยังมีการพูดคุยกันเกี่ยวกับรูปร่างหลังจากที่ไม่ได้เจอผู้คน ในช่วงเทศกาลนี้”

แนวปฏิบัติของ EDFA แสดงอัตราการฟื้นตัวสำหรับผู้ที่มีความผิดปกติในการรับประทานอาหารดีขึ้นอย่างมากเมื่อครอบครัวและผู้ดูแลได้รับความรู้และความช่วยเหลือ ดังนั้นการมีสติที่โต๊ะอาหารเป็นอย่างแรกก็เป็นการเริ่มต้นที่ดี

“การจะผ่านพ้นช่วงเทศกาลที่มีอาหารมากมายไปได้นั้น คุณต้องการการสนับสนุนจากทุกคนที่อยู่รอบตัวคุณจริงๆ และคุณต้องเซ็นเซอร์บางบทสนทนาด้วย”

หาช่องทางความช่วยเหลือ

สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาการกินผิดปกติและคนที่คุณรัก มีช่องทางมากมายสำหรับความช่วยเหลือ

Jane Rowan จาก EDFA กล่าวว่า “เราต้องเพิ่มความตระหนักรู้ และต้องแน่ใจว่าผู้ป่วยจะได้รับความช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด”

การเผยแพร่ความรู้ จะช่วยกระตุ้นและการมีสติมากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่คุณพูด ไม่ใช่แค่ในช่วงเทศกาลเท่านั้น แต่โดยทั่วไปสามารถช่วยให้ผู้ที่มีความผิดปกติในการรับประทานอาหารรู้สึกได้รับความช่วยเหลือและเข้ารับการรักษาฟิ้นฟู  

ยิ่งคุณสามารถขอความช่วยเหลือได้เร็วเท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้น

“ยิ่งปล่อยไว้นาน ยิ่งยากขึ้น … การเข้ารับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ เป็นสิ่งสำคัญ” นางโรวันกล่าว

ที่มา

https://www.abc.net.au/news/2022-12-15/eating-disorders-more-challenging-over-christmas-period/101775648

สำนวนจากบทความ

Many see it as the time to decompress and veg out after a big year

หลายคนเห็นว่าเป็นเวลาคลายเครียดและพักผ่อยเอนหลังยาวๆ หลังจากปีที่ยอดเยี่ยม

veg out  means to relax idly or passively, and in an inattentive way.(Refer: AUA Language Center)

a big year means a particularly fortuitous, beneficial, or productive year. (Refer : https://idioms.thefreedictionary.com/big+year)