saradeestory

Menu
  • หน้าแรก
  • ข่าว
    • สิ่งแวดล้อม
    • ท่องเที่ยว
    • สาระบันเทิง
    • สาระสุขภาพ
    • บันเทิงเกาหลี
    • สิทธิ สังคม และการเมือง
  • ไลฟ์สไตล์
    • สัตว์
    • อาหาร
    • ข้อคิดคำคม
    • ฮวงจุ้ย
  • บทความต่างประเทศ
    • ภัยพิบัติ
    • ภัยใกล้ตัว
    • เทคโนโลยีและความก้าวหน้า
  • ประวัติศาสตร์
    • บุคคลสำคัญ
  • เกี่ยวกับ-ติดต่อเรา
    • นโยบายด้านความเป็นส่วนตัว
Home
อาหาร
ข้าวโอ๊ตกับประโยชน์ต่อสุขภาพและข้อควรระวัง
อาหาร

ข้าวโอ๊ตกับประโยชน์ต่อสุขภาพและข้อควรระวัง

28/03/2023
109

ข้าวโอ๊ต เป็นธัญพืชที่อุดมไปด้วยเส้นใยอาหารและโปรตีน และมีสารอาหารสำคัญอื่นๆ เช่น แมงกานีส ฟอสฟอรัส ซีลีเนียม วิตามินอี วิตามินบี 1 เป็นต้น เชื่อกันว่าสารเหล่านี้ดีต่อสุขภาพและอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้ นอกจากนี้ข้าวโอ๊ตยังทำให้อิ่มนาน

ประโยชน์ต่างๆของข้าวโอ๊ต

1.รำข้าวโอ๊ตหรือข้าวโอ๊ตแบบเต็มเมล็ดช่วยรลดความเสี่ยงโรคต่าง ๆ ได้ เช่น โรคความดันโลหิตสูง คอเลสเตอรอลสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคมะเร็ง อาการปวดข้อ กลุ่มอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง กรดยูริกในเลือดสูง ภาวะเครียด โรคทางผิวหนัง รวมทั้งโรคในระบบทางเดินอาหารอย่างโรคลำไส้แปรปรวน ท้องเสีย โรคถุงผนังลำไส้ใหญ่ หรือท้องผูก

2.ฟางข้าวโอ๊ตนำมาใช้บรรเทาอาการของโรคหวัด โรคไข้หวัดหมู อาการไอ ปวดข้อ โรคทางดวงตา โรคเก๊าท์ กลุ่มโรคระบบเนื้อเยื่อเกี่ยวพันผิดปกติ (Connective Tissue Disorder) แผลพุพอง อาการฟรอสไบท์ (Frostbite) ที่เกิดจากร่างกายได้รับความเย็นจัดจนเนื้อเยื่อเสียหาย  

3.ข้าวโอ๊ต บางประเภทใช้เป็นยาทารักษาผิวหนังที่ผิดปกติ เช่น อาการคัน ผิวแห้ง ตกสะเก็ด ผิวมัน โรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง โรคอีสุกอีใส โรคข้อเสื่อม อาการเท้าเย็นเรื้อรังหรือปวดเมื่อยเท้า เป็นต้น

ข้อมูลโภชนาการของข้าวโอ๊ตดิบ 100 กรัม โดยประมาณ

Image by Freepik

มีข้อมูลจากประโยชน์ของข้าวโอ๊ตที่ระบุจากฐานข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการแพทย์ทางธรรมชาติ (Natural Medicines Comprehensive Database) ว่าประสิทธิภาพจากการใช้ข้าวโอ๊ตรักษาโรคต่าง ๆ ตามตัวอย่างงานวิจัยในระดับต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

การรักษาที่น่าจะได้ผล (Likely Effective)

ช่วยลดคอเลสเตอรอลและความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ 

เชื่อว่าเส้นใยอาหารชนิดละลายน้ำที่ชื่อว่าเบต้า กลูแคน (Beta Glucan) ในข้าวโอ๊ตหรือรำข้าวโอ๊ตมีส่วนช่วยลดการสร้างและชะลอการดูดซึมคอเลสเตอรอลเข้าสู่ร่างกาย 

ได้มีการทดลองให้อาสาสมัครชายหญิงที่มีภาวะไขมันในเลือดสูงจำนวน 19 คน รับประทานข้าวโอ๊ต ที่มีปริมาณเบต้า กลูแคน 2.9 กรัม วันละ 2 ครั้ง นานติดต่อกัน 4 สัปดาห์ และเว้นช่วงอีก 3 สัปดาห์ จึงค่อยให้รับประทานสารมอลโตเดกซ์ตริน (Maltodextrin) ซึ่งมีลักษณะคล้ายแป้ง ในระยะเวลาเท่ากัน เพื่อเปรียบเทียบผล ซึ่งทั้ง 2 อย่างที่อาสาสมัครรับประทานนั้นเทียบเท่ากับการรับประทานรำข้าวโอ๊ตวันละ 70 กรัม

ผลจากการทดสอบดังกล่าวพบว่าระดับคอเลสเตอรอลรวมและคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีลดลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วงที่รับประทานข้าวโอ๊ต โดยระดับคอเลสเตอรอลทั้ง 2 ชนิดลดลงเรื่อย ๆ จนในสัปดาห์ที่ 4 ค่าระดับคอเลสเตอรอลลดลงประมาณ 9% แต่ในช่วงที่รับประทานสารคล้ายแป้งไม่พบการเปลี่ยนแปลงของระดับคอเลสเตอรอลอย่างเห็นได้ชัด 

จะเห็นว่าการรับประทานข้าวโอ๊ตที่มีเบต้า กลูแคนน่าจะช่วยลดคอเลสเตอรอลรวมและคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะไขมันในเลือดสูง แต่อาจไม่ส่งผลต่อระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี   ข้าวโอ๊ตอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่าอะวีแนนตรามายด์ (Avenanthramides)  ซึ่งช่วยต้านภาวะอักเสบในหลอดเลือดและควบคุมความดันโลหิตให้เป็นปกติ 

ข้อมูลมาจากการทดลองให้อาสาสมัครชายหญิงที่มีภาวะคอเลสเตอรอลสูงในระดับปานกลางกลุ่มหนึ่งรับประทานข้าวโอ๊ตสำเร็จรูป 100 กรัม และอีกกลุ่มรับประทานบะหมี่ที่ทำจากแป้งสาลี ระยะเวลา 6 สัปดาห์ ปรากฏว่ากลุ่มที่รับประทานข้าวโอ๊ตมีระดับคอเลสเตอรอลรวม คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี และรอบเอวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม อีกทั้งมีระดับคอเลสเตอรอลชนิดดีลดลงน้อยกว่า แต่ไม่พบการเปลี่ยนแปลงของความดันเลือด สัดส่วนของร่างกาย หรือผลด้านอื่นอย่างเห็นได้ชัดนัก 

กล่าวได้ว่าการรับประทานข้าวโอ๊ตสำเร็จรูปเป็นประจำอย่างน้อย 6 สัปดาห์ อาจลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ป่วยที่มีภาวะไขมันสูงไม่รุนแรง ดังนั้นจึงแนะนำให้เพิ่มการรับประทานธัญพืชและข้าวโอ๊ตในมื้ออาหารให้มากขึ้น  

การรักษาที่อาจได้ผล (Possibly Effective)

ลดระดับน้ำตาลในเลือด 

การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและรับประทานอาหารที่มีกากใยสูงอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน ข้าวโอ๊ตเป็นธัญพืชที่มีกากใยอาหารปริมาณมาก โดยเฉพาะกากใยเบต้ากลูแคน อาจเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องเผชิญกับภาวะน้ำตาลในเลือดสูงและช่วยป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน

มีการศึกษาขนาดเล็กเกี่ยวกับประสิทธิภาพของเบต้ากลูแคนต่อระดับน้ำตาลหลังอาหารและการดูดซึมน้ำตาลในร่างกายของอาสาสมัครที่มีภาวะน้ำหนักเกินจำนวน 12 คน 

โดยกลุ่มอาสาสมัครรับประทานอาหารปกติและอาหารที่เติมเบต้ากลูแคนลงไป 5 กรัม 

จากนั้นในอีก 6 ชั่วโมงถัดมาจึงตรวจน้ำตาลในเลือดหลังรับประทานอาหาร พบว่าอาหารที่เติมเบต้ากลูแคนช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด โดยลดการสร้างน้ำตาลของร่างกายและชะลออัตราการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด

ดังนั้น จึงคาดกันว่าการรับประทานข้าวโอ๊ตน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดเช่นกัน

โรคหรืออาการทางผิวหนัง 

เชื่อกันว่าข้าวโอ๊ตมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและนำมาใช้ประโยชน์เป็นยาทารักษาอาการทางผิวหนังตั้งแต่อดีต เช่น ผื่นผิวหนัง ผิวหนังไหม้ อาการคัน รอยแดง เป็นต้น 

โดยในทางการแพทย์เรียกข้าวโอ๊ตชนิดนี้ว่า Colloidal Oats ซึ่งเป็นข้าวโอ๊ตคนละชนิดกับที่นำมารับประทาน

จากการทดลองประสิทธิภาพของสารสกัดจากข้าวโอ๊ตชนิด Colloidal Oats ในรูปแบบโลชั่นทาผิว 4 ชนิดกับผู้หญิงที่มีสุขภาพดีที่มีอาการคันบริเวณผิวหนังระดับเบาถึงปานกลาง และมีผิวแห้งอย่างรุนแรงบริเวณน่องขาทั้ง 2 ข้าง จำนวน 29 คน 

ผลพบว่าอาสาสมัครมีอาการดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากภาวะผิวแห้งกร้าน ผิวตกสะเก็ด ผิวไม่เรียบเนียน และผิวที่มีอาการคันรุนแรง

ซึ่งการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าข้าวโอ๊ตชนิด Colloidal Oats มีฤทธิ์ลดการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระโดยตรง อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถบอกได้แน่ชัด เพราะกลุ่มการศึกษามีขนาดเล็ก

ความปลอดภัยในการรับประทานข้าวโอ๊ตหรือการใช้ผลิตภัณฑ์จากข้าวโอ๊ต

การรับประทานรำข้าวโอ๊ตค่อนข้างปลอดภัยต่อสุขภาพ แต่ก็อาจเกิดผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น มีแก๊สในท้องมาก ท้องอืด และรู้สึกแน่นท้อง  ดังนั้น ในช่วงแรกควรลองรับประทานแต่น้อยและค่อย ๆ เพิ่มปริมาณขึ้น เพื่อให้ร่างกายปรับตัว ส่วนการใช้ข้าวโอ๊ตหรือผลิตภัณฑ์จากข้าวโอ๊ตกับผิวหนังอาจก่อให้เกิดอาการแสบร้อนได้ในบางราย 

บุคคลที่ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานข้าวโอ๊ตหรือผลิตภัณฑ์จากข้าวโอ๊ต

  1. ผู้ที่กลืนหรือเคี้ยวอาหารลำบาก เช่น ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดในสมอง ผู้ที่ไม่มีฟันบางซี่หรือฟันปลอมสวมได้ไม่พอดีกับช่องปาก เป็นต้น เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงให้ลำไส้อุดตันจากการเคี้ยวได้ไม่ละเอียด
  2. ผู้ที่มีความผิดปกติของระบบย่อยอาหารและอวัยวะที่เกี่ยวข้อง เช่น หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร หรือลำไส้ อาจต้องใช้เวลาย่อยข้าวโอ๊ตนานกว่าปกติและเกิดการอุดตันในลำไส้ตามมา
  3. ผู้ที่มีอาการแพ้อะวีนิน (Avenin) คือโปรตีนชนิดหนึ่งในข้าวโอ๊ตที่คล้ายกับกลูเตนในข้าวสาลี อาการแพ้ เช่น ระคายเคืองในปากและลำคอ คันตา ในกรณีที่แพ้รุนแรงอาจทำให้เกิดอาการหายใจลำบาก จนอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

ทั้งนี้ หากมีอาการแพ้ข้าวสาลีหรือธัญพืชชนิดต่าง ๆ ควรเลือกซื้อข้าวโอ๊ตชนิดที่ระบุว่าเป็นข้าวโอ๊ต 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อหลีกเลี่ยงการเจือปนกับธัญพืชชนิดอื่นที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้

ที่มา : www.pobpad.com

Tweet Pin It
เรื่องก่อนหน้า
เรื่องถัดไป
Tags:saradeestory ข้อดีและข้อเสียของข้าวโอ๊ต ข้าวโอ๊ต ประโยชน์ข้าวโอ๊ต วิธีกินข้าวโอ๊ต สาระดีสตอรี่

เรื่องที่น่าสนใจ

535 อันฮโย …
บันเทิงเกาหลี 29/03/2023

อันฮโยซอบกับบทบาทศัลยแพทย์อัจฉริยะใน “Dr Romantic 3”

90 ทุกวันน …
สิ่งแวดล้อม, ข่าว 11/05/2023

เลือกอาหารอย่างไรเพื่อลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์

99 ใกล้วัน …
ข่าว, สิทธิ สังคม และการเมือง 30/04/2023

เลือกตั้ง 2566 ตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งง่าย ๆ ผ่านเว็บ

176 ส่องสถ …
ข่าว 04/03/2023

ส่องสถิติหวยออกย้อนหลัง 10 ปี งวด 16 มีนาคม

5 เรื่องล่าสุด

  • 31 พฤษภาคม วันงดสูบบุหรี่โลก
    31/05/2023
    คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลก ประจำปี 2566 “บุหรี่ไฟฟ้ามีสารพิษ เสพติด อันตราย” ประวัติวันงดสู
  • ส่องงาน JOB EXPO THAILAND 2023 มีอะไรเพื่อ “วัยเก๋าและกลุ่มเปราะบาง”
    29/05/2023
    กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางานชวนผู้สูงอายุ กลุ่มเปราะบาง ร่วมงานมหกรรมจัดหางาน JOB EXPO THAILAND 2
  • กทม. เริ่มโครงการผ้าอนามัยฟรีในโรงเรียน สังกัดกรุงเทพมหานคร 
    29/05/2023
    วันที่ 26 พฤษภาคม 2566 นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่โรงเรียนวัดราชสิ
  • สภาผู้บริโภคเสนอวิธีแก้ค่าไฟแพง แบบไม่ต้องใช้งบประมาณภาษีประชาชน
    28/05/2023
    จากปัญหาค่าไฟฟ้าแพงสร้างความเดือดร้อนแบบที่เรียกว่า “แสนสาหัส” กับประชาชนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อ
  • แนะนำ 5 เทคนิคดี ๆ ช่วยลดขยะอาหาร ที่ร้านบุฟเฟ่ต์ต้องรู้
    28/05/2023
    ปัจจุบัน ร้านอาหารบุฟเฟ่ต์กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะสามารถเลือกกินได้แบบไม่อั้น แต่สิ่งที

5 เรื่องติดอันดับ

  • 31 พฤษภาคม วันงดสูบบุหรี่โลก
    31/05/2023
  • งานน่าสนใจ 5 บริษัท ที่ประกาศเปิดรับสมัคร (รวบรวม 1 ก.ย.65)
    04/09/2022
  • มาทำความรู้จัก Social Media Detox กัน
    08/09/2022
  • 11 ข้อประสบการณ์ที่ได้จากการทำงานกับชาวต่างชาติ
    08/09/2022
  • กษัตริย์ใหม่แห่งสหราชอาณาจักร ชาร์ลส์ที่3
    09/09/2022

หมวดหมู่

legal (1) ข่าว (75) ท่องเที่ยว (24) นักหัดเขียน (4) บทความต่างประเทศ (35) บันเทิงเกาหลี (8) บุคคลสำคัญ (5) ประวัติศาสตร์ (5) ภัยพิบัติ (1) ภัยใกล้ตัว (2) มุมอิสระ (5) วันสำคัญ (12) สมัครงาน (7) สัตว์ (8) สาระสุขภาพ (18) สิทธิ สังคม และการเมือง (18) สิ่งแวดล้อม (33) อาหาร (12) ฮวงจุ้ย (1) เตือนภัยล่วงหน้า (3) เทคโนโลยีและความก้าวหน้า (1) ไลฟ์สไตล์ (11)

เพจ:สาระดีสตอรี่

saradeestory

Copyright © 2023 saradeestory
Email : admin@saradeestory.com